ห้องคลีนรูม (Clean Room) หรือห้องสะอาด และมาตรฐานคลีนรูม (Clean Room)

 

🧼 ห้องคลีนรูม (Cleanroom) หรือห้องสะอาด และมาตรฐานคลีนรูม

ห้องคลีนรูม (Cleanroom) หรือที่เรียกกันว่า ห้องสะอาด คือห้องที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมระดับของฝุ่นละออง อนุภาคในอากาศ และสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ อย่างเข้มงวด เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แรงดันอากาศ และความเร็วลม เพื่อป้องกันการพัดพาอนุภาคหรือจุลชีพเข้าสู่พื้นที่ และลดความเสี่ยงในการปนเปื้อน

ในสภาพแวดล้อมทั่วไป อากาศมักมีอนุภาคที่มองไม่เห็นปะปนอยู่ เช่น ฝุ่นละออง เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ต่าง ๆ
ห้องคลีนรูมจึงถูกออกแบบเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ ควบคุมได้และสะอาดในระดับที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตหรือการใช้งานทางการแพทย์

🏥 ห้องคลีนรูมเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่สำคัญ เช่น

  • ห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล
  • ห้องผ่าตัด ห้องแยกโรค ห้องไอซียู ห้อง CCU และห้องพักฟื้นผู้ป่วย
  • ห้องฟอกไต ห้องแลป ห้องปฏิบัติการ
  • ห้องผลิตยา เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง และอาหารเสริม
  • โรงงานผลิตอาหารและอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ

ชนิดของห้องคลีนรูม แบ่งตามลักษณะการใช้งาน

🏭 ห้องสะอาดทางอุตสาหกรรม (Industrial Clean Room

 

ห้องสะอาดทางอุตสาหกรรมถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมสิ่งปนเปื้อนในกระบวนการผลิตที่ต้องการความแม่นยำสูง

เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีความไวต่อฝุ่นละอองหรืออนุภาคในอากาศ เช่น

  • อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไมโครชิพ
  • การผลิตแผงวงจร เซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนความละเอียดสูง
  • อุตสาหกรรมสี ฟิล์ม สารเคมี และวัสดุที่ต้องการความบริสุทธิ์ในระดับสูง

ห้องสะอาดประเภทนี้ช่วยลดความเสียหายจากฝุ่นหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพในการผลิต

🧬 ห้องสะอาดทางชีววิทยา (Biological Clean Room)

 

ห้องสะอาดทางชีววิทยาได้รับการออกแบบเพื่อควบคุมการปนเปื้อนจากเชื้อจุลชีพ เช่น แบคทีเรีย และไวรัส
เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดระดับสูงและปลอดเชื้อ เช่น

  • อุตสาหกรรมการผลิตยา
  • ห้องปฏิบัติการด้านชีววิทยาและจุลชีววิทยา
  • ห้องผ่าตัด และพื้นที่ปลอดเชื้อในโรงพยาบาล

เพื่อป้องกันการไหลเวียนของอากาศปนเปื้อนเข้าสู่ห้องสะอาด ระบบจะถูกออกแบบให้ แรงดันอากาศภายในห้องสูงกว่าห้องข้างเคียง (Positive Pressure) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองหรือเชื้อโรคจากภายนอกไหลเข้ามายังพื้นที่ภายใน

☣️ ห้องสะอาดสำหรับชีววัตถุอันตราย (Biohazard Clean Room)

 

ห้องสะอาดประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับ เชื้อโรคอันตราย เช่น ไวรัส แบคทีเรียรุนแรง หรือ สารชีวภาพที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
พื้นที่นี้จำเป็นต้องมีการควบคุมความปลอดภัยในระดับสูง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อหรือสารปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก

ระบบอากาศของห้องชนิดนี้จะใช้ แรงดันลบ (Negative Pressure) โดยออกแบบให้ ความดันภายในห้องต่ำกว่าห้องข้างเคียง
เพื่อควบคุมทิศทางการไหลของอากาศ และป้องกันไม่ให้เชื้อหรือสารอันตรายรั่วไหลออกไปภายนอก

เหมาะสำหรับ:

  • ห้องทดลองที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอันตราย
  • ห้องแล็บชีวภาพระดับความปลอดภัยสูง (BSL-2, BSL-3, BSL-4)
  • ศูนย์ควบคุมโรค ห้องวิเคราะห์เชื้อ และการวิจัยทางชีวเวช

ชนิดของ Clean Room แบ่งตามลักษณะการไหลของอากาศ

🌀 ห้องคลีนรูมแบบทั่วไป (Conventional Clean Room)

Conventional Clean Room เป็นห้องสะอาดที่ใช้ระบบการไหลของอากาศคล้ายกับระบบปรับอากาศทั่วไป โดยอากาศจะหมุนเวียนภายในห้องแบบ Non-unidirectional (ไม่เป็นทิศทางเดียว) แต่เสริมด้วยการติดตั้ง HEPA Filter เพื่อกรองฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็ก

ห้องคลีนรูมประเภทนี้เน้นที่ จำนวนครั้งของการเปลี่ยนอากาศ (Air Change per Hour: ACH) ที่มากกว่าห้องทั่วไป เพื่อช่วยลดปริมาณสิ่งสกปรกในอากาศ และรักษาระดับความสะอาดให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิตหรือการวิจัย

โดยทั่วไป ห้องคลีนรูมแบบ Conventional จะมีระดับความสะอาดประมาณ Class 1,000 – 10,000 (ISO Class 6 – 7) ตามมาตรฐาน ISO 14644

➡️ ห้องคลีนรูมแบบลามินาร์โฟลว์แนวนอน (Horizontal Laminar Clean Room)

ห้องคลีนรูมชนิดนี้ออกแบบให้ลมไหลอย่างสม่ำเสมอในทิศทางเดียว (Laminar Flow) โดยใช้ HEPA Filter ติดตั้งเต็มพื้นที่ผนังด้านหนึ่งของห้อง เพื่อให้ลมสะอาดไหลเข้าสู่พื้นที่ควบคุมด้วยความเร็วคงที่

ลมที่ไหลผ่านจะเคลื่อนตัวในแนวระนาบ (แนวนอน) ผ่านพื้นที่ทำงาน และถูกดูดกลับทางด้านบนของผนังฝั่งตรงข้าม หรือเพดาน ก่อนจะหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบกรองอีกครั้งผ่านเครื่องเป่าลม (Blower Unit)

ห้องประเภทนี้มีระดับความสะอาดโดยทั่วไปประมาณ Class 100 (ISO Class 5) ซึ่งเหมาะสำหรับกระบวนการที่ต้องการความสะอาดสูงมาก

นิยมใช้ใน:

  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  • การผลิตแผงวงจร ไมโครชิพ
  • ห้องปฏิบัติการชีววิทยา
  • งานวิจัยที่มีความไวต่อการปนเปื้อน

⬇️ ห้องคลีนรูมแบบลามินาร์โฟลว์แนวตั้ง (Vertical Laminar Flow Clean Room)

ห้องคลีนรูมชนิดนี้ออกแบบให้ลมสะอาดไหลลงในแนวดิ่ง (Vertical Laminar Flow) โดยติดตั้ง HEPA Filter เต็มพื้นที่บริเวณเพดาน เพื่อกรองอากาศก่อนปล่อยเข้าสู่ห้องด้วยความเร็วคงที่

อากาศจะถูกส่งลงจากเพดานผ่าน HEPA Filter อย่างสม่ำเสมอ และไหลผ่านพื้นที่ทำงานในแนวดิ่ง ก่อนถูกดูดกลับผ่านช่องพื้น (Return Air Grilles) และหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบเครื่องเป่าลมเย็น (Blower Unit)

ห้องชนิดนี้ให้ระดับความสะอาดในมาตรฐาน Class 100 (ISO Class 5) เหมาะสำหรับกระบวนการที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดฝุ่นและอนุภาคอย่างเข้มงวด

นิยมใช้ใน:

  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  • การผลิตแผงวงจร ไมโครชิพ
  • งานที่ต้องการลดโอกาสการปนเปื้อนจากด้านข้างหรือผิวสัมผัส

แนวทางการไหลของอากาศในห้องคลีนรูม: Horizontal vs Vertical Laminar Flow

🧪 ห้องคลีนรูมทางชีววิทยาในอุตสาหกรรมและโรงพยาบาล

ห้องคลีนรูมทางชีววิทยาถูกออกแบบเพื่อควบคุมและป้องกันการปนเปื้อนจาก เชื้อโรคและจุลชีพในอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการสภาพแวดล้อมปลอดเชื้อ เช่น โรงพยาบาล ห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วยหนัก หรืออุตสาหกรรมการผลิตยาและเวชภัณฑ์

ในขณะที่ ห้องคลีนรูมสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ จะเน้นควบคุมอนุภาคทั้งที่มีชีวิต (เช่น จุลชีพ) และอนุภาคไม่มีชีวิต (เช่น ฝุ่นละออง) เพื่อรักษาความแม่นยำของกระบวนการผลิตและป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์

เครื่องมือสำคัญในการกรองอากาศภายในห้องคลีนรูมคือ แผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) ซึ่งสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99.97% ช่วยลดโอกาสการปนเปื้อนในกระบวนการผลิตและปกป้องผู้ใช้งานภายในห้อง

ในหลายอุตสาหกรรม การใช้ห้องคลีนรูมเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐาน เช่น

  • GMP (Good Manufacturing Practice)
  • HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point)

รวมถึงการใช้งานในโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อในห้องผ่าตัด ห้องปลอดเชื้อ และห้องผู้ป่วยวิกฤต

ระดับความสะอาด (Cleanroom Classification)

ในการเลือกใช้ห้องคลีนรูม กระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์จะต้องสอดคล้องกับระดับความสะอาดที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมภายในห้องได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งนี้ระดับความสะอาดของห้องคลีนรูมจะถูกจำแนกออกเป็นหลายชั้น (Class) ตามเกณฑ์การวัดปริมาณและขนาดของอนุภาคที่ลอยอยู่ในอากาศต่อหนึ่งหน่วยปริมาตร

มาตรฐานที่นิยมใช้ในการจัดประเภทห้องคลีนรูม ได้แก่:

  • Federal Standard 209E (FS 209E): ระบุเป็น Class เช่น Class 100, Class 1,000, Class 10,000 เป็นต้น
  • ISO 14644-1: ระบบมาตรฐานสากลที่ใช้การวัดอนุภาคต่อมิลลิลิตรของอากาศ โดยกำหนดเป็น ISO Class 1 ถึง ISO Class 9
  • EU GMP (Good Manufacturing Practice): มาตรฐานยุโรปที่ใช้ในอุตสาหกรรมยา แบ่งเป็น Grade A, B, C และ D

การเลือกใช้คลีนรูมในแต่ละระดับชั้นจะขึ้นอยู่กับความไวต่อการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ์และกระบวนการ เช่น ผลิตยา ฉีดวัคซีน ผลิตไมโครชิพ หรือการผ่าตัดในโรงพยาบาล ต่างต้องการระดับความสะอาดที่ต่างกัน

Class 100 (ISO Class 5)

หมายถึงห้องที่มี อนุภาคในอากาศขนาด 0.5 ไมครอนขึ้นไปไม่เกิน 100 อนุภาคต่อหนึ่งลูกบาศก์ฟุตของอากาศ หรือ เทียบเท่ากับมาตรฐาน ISO Class 5 ตามระบบ ISO 14644-1 ห้องระดับนี้เหมาะสำหรับ:

  • การผลิตไมโครชิพและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
  • ห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อ
  • กระบวนการผลิตยาและสารชีวภาพที่ต้องการความสะอาดสูงมาก

Class 1,000 (ISO Class 6)

หมายถึงห้องที่มี อนุภาคในอากาศขนาด 0.5 ไมครอนขึ้นไปไม่เกิน 1,000 อนุภาคต่อหนึ่งลูกบาศก์ฟุตของอากาศ เทียบเท่ากับระดับความสะอาด ISO Class 6 ตามมาตรฐาน ISO 14644-1 ห้องระดับนี้เหมาะสำหรับ:

  • การประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดสูง
  • พื้นที่เตรียมกระบวนการในอุตสาหกรรมชีวเวชภัณฑ์
  • ห้องปฏิบัติการทั่วไปที่ต้องควบคุมความสะอาดอย่างเข้มงวด

Class 10,000 (ISO Class 7)

หมายถึงห้องที่มี อนุภาคในอากาศขนาด 0.5 ไมครอนขึ้นไปไม่เกิน 10,000 อนุภาคต่อหนึ่งลูกบาศก์ฟุตของอากาศ เทียบเท่ากับระดับความสะอาด ISO Class 7 ตามมาตรฐาน ISO 14644-1 ห้องระดับนี้เหมาะสำหรับ:

  • พื้นที่เตรียมวัตถุดิบหรือบรรจุภัณฑ์ในอุตสาหกรรมยาและอาหาร
  • ห้องพักคนงานก่อนเข้าพื้นที่ปลอดเชื้อ
  • งานผลิตทั่วไปที่ต้องควบคุมฝุ่นในระดับปานกลาง

Class 100,000 (ISO Class 8)

หมายถึงห้องที่มี อนุภาคในอากาศขนาด 0.5 ไมครอนขึ้นไปไม่เกิน 100,000 อนุภาคต่อหนึ่งลูกบาศก์ฟุตของอากาศ เทียบเท่ากับระดับความสะอาด ISO Class 8 ตามมาตรฐาน ISO 14644-1 ห้องระดับนี้เหมาะสำหรับ:

  • พื้นที่สนับสนุนก่อนเข้าสู่โซนสะอาด เช่น ห้องเปลี่ยนชุด
  • การผลิตทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง หรืออุปกรณ์การแพทย์
  • งานบรรจุภัณฑ์หรือจัดเก็บผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องการการควบคุมเข้มงวดมาก

Cleanroom Operating Principles

ออกแบบและติดตั้งห้องคลีนรูม (Clean Room) หรือห้องสะอาดแบบครบวงจร (Clean Room) หรือห้องสะอาด

บริการออกแบบและติดตั้งห้องคลีนรูมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งในภาคการแพทย์, การผลิต และงานวิจัย โดยห้องที่เราจัดเตรียมจะช่วยให้คุณควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล, ห้องผ่าตัด, ห้องแยกโรค, ห้องไอซียู, หรือห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ และในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โรงงานผลิตอาหาร, เครื่องสำอาง, ยา และอาหารเสริม

ห้องคลีนรูมแรงดันบวก (Positive Pressure Cleanroom) (Positive Pressure Cleanroom)

 

ห้องคลีนรูมแรงดันบวก (Positive Pressure Cleanroom) คือการออกแบบห้องที่ช่วยรักษาความสะอาดภายในโดยการสร้าง แรงดันบวก ภายในห้อง ซึ่งทำให้อากาศไหลออกจากห้องตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งปนเปื้อนจากภายนอกเข้าสู่พื้นที่ภายในห้อง

การไหลของอากาศสะอาดจะถูกกรองผ่านตัวกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) ก่อนเข้าสู่ห้องและช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในห้องสะอาดอยู่เสมอ ห้องคลีนรูมประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่ที่ต้องการการควบคุมอากาศและป้องกันการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด เช่น:

  • ห้องผ่าตัดทั่วไป ที่ต้องป้องกันการติดเชื้อจากอากาศภายนอก
  • ห้องคลอด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม
  • ห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล และพื้นที่ที่ต้องการควบคุมความสะอาดอย่างแม่นยำ

ห้องคลีนรูมแรงดันลบ (Negative Pressure Cleanroom)

 

ห้องคลีนรูมแรงดันลบ (Negative Pressure Cleanroom) คือระบบที่ออกแบบเพื่อ กักเก็บอากาศและสิ่งปนเปื้อนภายในห้อง โดยการทำให้ แรงดันอากาศภายในห้องต่ำกว่าภายนอก เพื่อไม่ให้อากาศหรือสารปนเปื้อนจากภายในห้องไหลออกสู่ภายนอก

การใช้งานระบบแรงดันลบนี้มีความสำคัญในสถานที่ที่ต้องการการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคหรือสารอันตรายสู่พื้นที่ภายนอก ห้องคลีนรูมแรงดันลบเหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น:

  • ห้องแยกโรค (Isolation Room) เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อจากผู้ป่วย
  • ห้องผู้ป่วยโควิด-19 หรือห้องสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคติดต่อร้ายแรง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
  • ห้องทดลองที่เกี่ยวข้องกับวัสดุอันตราย หรือการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรค

การวางผังห้องคลีนรูม (Clean Room) หรือห้องสะอาด (Clean Room) หรือห้องสะอาด

การออกแบบห้องคลีนรูมต้องคำนึงถึงการวางผังรูปแบบต่าง ๆ เช่น U-Shape, W-Shape, C-Shape, L-Shape, Twin Horizontal Laminar Flow และ Double Cross Flow เพื่อให้ห้องได้ระดับความสะอาดและมาตรฐานที่ตรงตามข้อกำหนด

ระบบโครงสร้าง

 

ระบบโครงสร้างของห้องคลีนรูปประกอบไปด้วย งานพื้น งานผนัง งานฝ้าเพดาน งานประตู ซึ่งวัสดุประเภทต่างๆ ที่นำมาใช้ในการทำห้องคลีนรูม ต้องคำนึงถึงการใช้งานและการรักษาค่าความสะอาด เช่น การใช้พื้นป้องกันแบคทีเรีย พื้นป้องกันไฟฟ้าสถิต (ESD Tile) เป็นต้น

ระบบปรับอากาศ (Air Handling Unit: AHU)

 

เป็นระบบที่ควบคุมอากาศภายในห้องคลีนรูม ซึ่งต้องคำนวณปริมาณลมเข้า-ออก อุณหภูมิ และอื่นๆ เพื่อรัการะดับความสะอาดและปริสิทธิภาพต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยการออกแบบ คำนวณและติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งประกอบไปด้วยระบบ HVAC และท่อส่งลม จะต้องมีการออกแบบทางเดินลมและการปรับอากาศที่มีความเฉพาะตัว ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Control System) เป็นระบบที่ออกแบบในการควบุมการปรับอากาศในห้องคลีนรูมโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถแสดงค่าอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความดันที่หน้าจดแสดงผล โดยมีระบบแจ้งเตือน เช่น AHU Alarm, Exhaust Alarm, Heater Alarm เป็นต้น

 

การแจ้งเตือนต่าง ๆ เช่น AHU Alarm, Exhaust Alarm, และ Heater Alarm จะช่วยให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้องและทันเวลา

 

การออกแบบและติดตั้งระบบ AHU จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณและติดตั้งระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าห้องคลีนรูมมีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่กำหนด

ทำไมต้อง ออบิท อิควิปเม้นท์

Design

 

บริษัท ออบิท อิควิปเม้นท์ มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมรับฟังความต้องการของลูกค้าเพื่อออกแบบ ห้องคลีนรูม (Cleanroom) และระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากการใช้งานจริงและมาตรฐานที่กำหนดแต่ละประเภทของห้องคลีนรูม เนื่องจากห้องคลีนรูมมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น ห้องทดลอง, ห้องผลิตยา, ห้องผ่าตัด, หรือ ห้องปลอดเชื้อ การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น ขนาดของห้อง, ระดับการปนเปื้อนที่สามารถรับได้, ระบบการไหลเวียนอากาศ, และระบบการกรองอากาศเพื่อให้มั่นใจว่าได้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการใช้งาน

ทีมออกแบบของเราจะคำนึงถึง การปรับปรุงประสิทธิภาพสูงสุด ของระบบ HVAC, การควบคุมแรงดันอากาศ, และ การกระจายอากาศ เพื่อให้การออกแบบตรงตามมาตรฐานและตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดและวัสดุคุณภาพสูง

Develop

 

ในขั้นตอนของการก่อสร้าง ออบิท อิควิปเม้นท์ ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ วัสดุและอุปกรณ์คุณภาพสูง เพื่อให้ได้ Cleanroom ที่มีมาตรฐานตามหลักวิศวกรรมและสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยในการควบคุมสิ่งปนเปื้อน เช่น การใช้วัสดุที่ไม่สะสมฝุ่นและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงการใช้ ระบบกรองอากาศ HEPA ที่มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคต่างๆ

บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างห้องคลีนรูมที่มี คุณภาพสูง และ ทนทาน เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล โดยทุกขั้นตอนการก่อสร้างจะได้รับการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพอย่างละเอียดจากทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ

Deliver

 

หลังจากการก่อสร้างห้องคลีนรูมเสร็จสมบูรณ์ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการ ทดสอบห้องคลีนรูม ก่อนการส่งมอบให้กับลูกค้า บริษัท ออบิท อิควิปเม้นท์ มุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าได้รับ Cleanroom ที่มีคุณภาพสูงสุด โดยการทดสอบจะดำเนินการตามมาตรฐาน NEBB (National Environmental Balancing Bureau) เพื่อให้มั่นใจว่าห้องคลีนรูมที่ส่งมอบให้ลูกค้าผ่านเกณฑ์และสภาพแวดล้อมที่ต้องการ

การทดสอบจะมี 3 ระบบหลัก ได้แก่:

  • AT-Built: การทดสอบระบบห้องคลีนรูมในสภาวะที่ห้องยังว่างเปล่า
  • AT-Rest: การทดสอบระบบห้องคลีนรูมหลังจากติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว
  • AT-Operation Condition: การทดสอบระบบห้องคลีนรูมในสภาวะการใช้งานเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ บริษัทยังมี ระยะเวลารับประกันผลงาน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานของห้องคลีนรูมที่ได้รับการติดตั้งและทดสอบแล้ว

Cleanroom Testing

  • การตรวจสอบฝุ่น (Airborne Particle Count Test)
  • การตรวจสอบความเร็วลม (Airflow Volume Test)
  • การตรวจสอบการรั่วไหลของแผ่นกรอง (HEPA/ULPA Filter Installation Leak Test)
  • การวัดความดันห้อง (Room Pressurization Test)